รักษาการณ์คณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์

 

สารจากคณบดี

 

          สำนักวิชาแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เริ่มจัดการเรียนการสอนหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตตั้งแต่ปี 2551 ภายใต้โครงการการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท ร่วมกับศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลตรัง และโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยรับนักศึกษารุ่นละ 48 คน จาก 5 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช พังงา และภูเก็ต หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตได้ผ่านการรับรองมาตรฐานการศึกษาแพทยศาสตร์ตามเกณฑ์ TMC.WFME.BME. Standards ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่โรงเรียนแพทย์ทั่วโลกยอมรับ สำนักวิชาฯ มีแผนเพิ่มศักยภาพในการผลิตนักศึกษาแพทย์เพิ่มโดยจัดการเรียนการสอนชั้นคลินิกที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับนักศึกษารุ่นแรกได้ในปี พ.ศ. 2569

          ปัจจุบันสำนักวิชาฯ ได้ขยายศักยภาพด้านการจัดการศึกษาโดยเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรีเพิ่มอีก  2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย (เปิดรับนักศึกษารุ่นแรก เมื่อปี 2563) และหลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต (เปิดรับนักศึกษารุ่นแรก เมื่อปี 2564)  สำหรับหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต เป็นหลักสูตรที่มีการบูรณาการศาสตร์ทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและการกีฬาเพื่อผลิตบัณฑิตนักวิทยาศาสตร์การกีฬาที่มีคุณภาพ และมีความพร้อมที่จะออกไปประกอบอาชีพด้านนี้ในหลากหลายบริบท หลากหลายหน่วยงานทั้งในภาครัฐแลภาคเอกชน อีกทั้งยังสามารถสร้างธุรกิจทางด้านการกีฬาและการออกกำลังกายด้วยตัวเองได้ นอกจากนั้นสำนักวิชาฯ ได้พัฒนาหลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิตเป็นหลักสูตรแรกของภาคใต้  มุ่งเน้นให้บัณฑิตมีความรู้และแนวคิดในการทำธุรกิจทางด้านแพทย์แผนไทยประยุกต์เพิ่มเติมไปจากความรู้ที่เป็นไปตามเกณฑ์สภาวิชาชีพ โดยมีโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยประยุกต์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นแหล่งฝึกประสบการณ์ทางวิชาชีพให้กับนักศึกษา

          ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สำนักวิชาฯ ได้พัฒนาตามพันธกิจในทุกด้านโดยมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในฐานะของรักษาการแทนคณบดีขอขอบคุณ ผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลาการสายปฏิบัติการ นักศึกษา   ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของสำนักวิชาทุกคน และขอขอบคุณผู้บริหาร คณาจารย์แพทย์ และบุคลากร ของศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิกทั้งที่โรงพยาบาลตรัง และโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งเป็นสถาบันร่วมผลิตบัณฑิตแพทยศาสตร์ ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนองค์กรแห่งนี้ อย่างไรก็ตามเรายังมีอีกหลายความท้าทายในอนาคตที่จะต้องพัฒนาต่อไปทั้งในด้านการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน การพัฒนาศักยภาพอาจารย์ การปรับปรุงทางกายภาพและสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ รวมถึงการผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมให้เป็นที่ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ กระผมจึงขอเชิญชวนคณาจารย์และเจ้าหน้าที่สำนักวิชาแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคตที่ท้าทายนี้ร่วมกันต่อไป

 

 

รองศาสตราจารย์ ดร.ชูชาติ พันธ์สวัสดิ์

รักษาการแทนคณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์